thitima tourism&hotel. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

สรรพคุณทางยาของน้ำพริกอ่อง



1.พริกแห้ง มีรสเผ็ดช่วยขับลมช่วยย่อย
2. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
3. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหารแก้โรคผิวหนัง
น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด 
4. มะเขือเทศ รสเปรี้ยวเป็นผักที่ใช้แต่งสี และกลิ่นอาหาร ช่วยระบายและบำรุงผิว
5. ผักชี ช่วยละลายเสมหะ แก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
6. แตงกวา รสจืดเย็น เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ 
7. ถั่วฝักยาว รสมัน หวาน มีคุณค่าทางอาหารสูง กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ บำรุงธาตุดิน
8. กระถิน ใบแบะยอดอ่อนรสมัน เมล็ดอ่อนรสมัน หวาน เล็กน้อย ใช้รับประทานแก้
ท้องร่วง สมานแผล ห้ามเลือด ฝักของกระถินเป็นยาฝาดสมานเมล็ดเป็นยาถ่ายพยาธิได้
9. ถั่วพู รสมัน บำรุงร่างกาย ให้คุณค่าทางโปรตีนสูง
10. มะเขือ รสขมเล็กน้อย กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ ช่วยบำรุงธาตุ


ที่มา http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

คุณค่าทางโภชนาการของน้ำพริกอ่องเจ้า





ที่มา http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ขั้นตอนการทำน้ำพริกอ่อง

สเต็ป 1 : เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม



สเต็ป 2 : ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน




สเต็ป 3 : ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด 

(ควรใช้ไฟอ่อน เพราะถ้าน้ำพริกแกงไหม้จะทำให้มีรสขมค่ะ)



สเต็ป 4 : ใส่หมูสับลงไปผัดกับเครื่องแกง


สเต็ป 5 : ใส่มะเขือเทศลงไป ผัดจนมะเขือเทศนิ่ม


สเต็ป 6 : ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย และน้ำปลาเล็กน้อย ชิมรสชาติตามชอบ


สเต็ป 7 : ผัดให้เข้ากันจนทุกอย่างสุกดี


สเต็ป 8 : เติมต้นหอมซอยลงไปผัดให้เข้ากัน


สเต็ป 9 : ตักใส่จาน กินคู่กับผักสดตามชอบ เช่น ผักกาดขาว แตงกวา ถั่วฟักยาว มะเขือเปราะ และถั่วพู




                                                           ที่มา http://cooking.kapook.com/view98445.html

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ส่วนผสม




หมูบด 300 กรัม

มะเขือเทศเชอร์รี หั่นเป็นชิ้น ๆ 200 กรัม

ต้นหอม 30 กรัม

น้ำพริกแกงเผ็ด 50 กรัม

น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ (75 กรัม)

น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา (15 กรัม)

น้ำปลา 2 ช้อนชา (15 กรัม)

ผักเครื่องเคียง (ตามชอบ)เช่น ผักกาดขาว แตงกวา ถั่วฟักยาว มะเขือเปราะ และถั่วพู

ที่มา foodandtravel

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ประวัติน้ำพริกอ่อง มาดูกันว่าต้นกำเนิดมาจากไหน




เมื่อก่อนนั้น ทางภาคเหนือยังไม่มีน้ำพริกอ่อง อาหารที่มีมาก่อนน้ำพริกอ่อง
ก็จะมี เช่น หนมเส้นน้ำเงี้ยว หรือขนมจีนน้ำเงี้ยว นั่นเอง เรื่องของเรื่องก็คือ
เมื่อก่อนมีชาวพม่าชื่อ "นายอ่องหม่อง" อยากจะกินหนมเส้นน้ำเงี้ยว จึงทำการ
ตำน้ำพริกเพื่อจะทำเป็นน้ำเงี้ยว กำลังเตรียมส่วนผสมั่วพริกคั่วหอมกลิ่นหอมๆ
กำลังได้ที่ระหว่างนั้น ลูกนายอ่องหม่องก็ร้องไห้เพราะหิวข้าวนายอ่องหม่องบอก
ให้ลูกเงียบก็ไม่เงียบซักที เอาแต่ร้องไห้ เพราะหิวข้าวมาก นายอ่องหม่องโมโหจึง
ตักน้ำพริกที่กำลังทำยังไม่เสร็จมาให้ลูกชายกิน แน่นอนรสชาติน้ำพริกตอนนั้น
มันเผ็ดมากนายอ่องหม่องเลยเก็บผักมากินกับน้ำพริกปรากฏว่ารสชาติอร่อย
รู้สึกติดใจ ลองเอาไปให้ชาวบ้านแถวนั้นกินก็ติดใจเลยพากันเรียก "น้ำพริกปู่อ่อง"
พอนานวันเข้า ก็เรียกเพี้ยนไป ให้สั้นลง เหลือเพียงน้ำพริกอ่อง
จึงเรียกติดปากกันมาเท่าทุกวันนี้

ที่มา http://xn--12cm6cuaz5da9au6re2c.blogspot.com/2012/12/history-chili-paste.html




  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS